วิธีการเลือกซื้อกล้องวงจรปิด CCTV เพื่อนำมาใช้งานให้คุ้มค่าที่สุด
ปัจจุบัน กล้องวงจรปิด ก็ได้มีการพัฒนาปรับปรุงเทคโนโลยีใหม่ๆออกมาเพื่อให้ได้คุณภาพของกล้องที่คมชัด และให้ไฟล์ภาพที่ได้มีขนาดเล็กที่สุดเพื่อให้สามารถเก็บบันทึกได้นานขึ้น เทคโนโลยีของกล้องวงจรปิดแต่ละค่ายแต่ละยี่ห้อถ้าหากเป็นเทคโนโลยีเดียวกันก็สามารถนำมาต่อเข้ากันได้เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าสามารถเลือกกล้องมาใช้งานแทนกล้องตัวเดิมที่เสียไป
กล้องวงจรปิดที่วางจำหน่ายทั่วไปมีทั้งแบบ Analog และ IP CAMERA เทคโนโลยีที่ใช้กันทั่วไปที่เรามักจะคุ้นหูก็คือ TVI , AHD , CVI เทคโนโลยีแต่ละชนิดไม่สามารถเอามาต่อพ่วงกันได้ เช่น AVTECH ได้นำเทคโนโลยีของ TVI มาใช้กับกล้องวงจรปิดและเครื่องบันทึก DVR ส่วน Hiview ได้นำเทคโนโลยีของ AHD มาใช้กับกล้องวงจรปิดและเครื่องบันทึก DVR ส่วน Dahua ก็ได้นำเทคโนโลยีของ CVI มาใช้กับกล้องวงจรปิดและเครื่องบันทึก DVR เช่นกัน มาต่อกันที่ว่าแล้วเราจะเลือกกล้องวงจรปิดมาใช้งานกับบ้านของเราละ
ปัจจัยในการเลือกกล้องวงจรปิด CCTV มีอะไรบ้างที่ควรรู้เบื้องต้น
1. ความละเอียดของภาพ
กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกได้สูงสุดที่เท่าไร อย่างเช่น กล้องบันทึกภาพได้ที่ 1080P,960P,720P หรืออาจจะเรียกว่า TVL(600TVL,700TVL,1000TVL) กล้องที่มีความละเอียดสูงๆส่วนมากก็มักจะมีราคาที่แพงขึ้นตามไปด้วย เช่น กล้อง IP CAMERA โดยปรกติความละเอียดของภาพจะอยู่ที่ 1.3 Megapixel ไปจนถึง 2 Megapixel บางรุ่นอาจจะถึง 5Megapixel
2. กล้องภายใน / กล้องภายนอก
กล้องวงจรปิด มีทั้งแบบใช้สำหรับติดตั้งภายในและสำหรับติดตั้งภายนอก ขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการเอากล้องไปในพื้นที่ตรงไหนบ้าง เช่น กล้องโดมสำหรับติดภายในบ้าน (Indoor) ก็จะทำให้ดูสวยงามขึ้นเก็บสายกล้องได้สวย ติดตามฝ้าได้สะดวก ส่วนกล้องภายนอก (Outdoor)ใช้สำหรับติดตามระเบียงชายคาบ้านหรือที่พบเห็นตามเสาไฟฟ้า หรือโกดังโรงงาน เพราะได้มีการออกแบบเพื่อให้สามารถป้องกันน้ำเข้าตัวอุปกรณ์ของกล้องได้
3. ระยะอินฟาเรด
สำหรับระยะอินฟาเรดเมื่อต้องการบันทึกภาพในเวลาตอนกลางคืนถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญอีกอย่างนึงที่ต้องเลือกมาใช้งาน อย่างเช่น ซื้อกล้องมาติดบ้านภายในก็อาจจะเป็นกล้องโดมระยะอินฟาเรดที่สามารถส่องถึงได้ก็ควรจะอยู่สักระยะ 10 - 15 เมตรเป็น ส่วนกล้องที่จะใช้ติดภายนอกบ้านตามระเบียงบ้าน 2 ชั้นเพื่อส่องลงมาดูบริเวณข้างบ้านตอนกลางคืนก็ควรเลือกระยะอินฟาเรดสักระยะ 20-25 เมตร (เผื่อแนวทะแยงที่กล้องส่องไปด้วย) ส่วนระยะอินฟาเรดที่เอาไปใช้ติดตามโรงงานหรือโกดังสินค้าที่มีความสูง 10 เมตร ขึ้นไปก็ให้เพิ่มระยะอินฟาเรดเป็น 25-30 เมตร เป็นต้น ปัญหาที่มักพบบ่อยคือบางคนเลือกซื้อกล้องที่ระยะอินฟาเรดระยะสั้นไปใช้กับพื้นที่สูงแล้วพอถึงช่วงเวลากลางคืนอินฟาเรดก็ส่องไปไม่ถึงจึงทำให้เกิดภาพมัวๆ ขาวๆ เนื่องจากอินฟาเรดส่องไม่ถึง กล้องที่ระยะอินฟาเรดสามารถส่องได้ระยะไกลๆก็มักจะมีราคาที่แพงขึ้นตามไปด้วย
4. การรับประกันของกล้องวงจรปิด
หลังจากที่เราได้ซื้อกล้องมาแล้ว อนาคตเราก็ไม่แน่ว่ากล้องจะเสียตอนไหนหรือฝนอาจจะตกไฟกระชาก ทำให้กล้องเสีย กล้องวงจรปิดแต่ละค่ายก็จะมีระยะเวลาการรับประกันที่ต่างกันออกไป เช่น AVTECH รับประกันสินค้าอยู่ที่ 2 ปี ส่วนกล้อง INNETK Analog ธรรมดาจะรับประกันสินค้า 1 ปี สำหรับ INNEKT HD-TVI รับประกันสินค้า 3 ปีเป็นต้น เราก็จะสะบายใจขึ้นเวลาที่กล้องดับ กล้องเสีย ก็สามารถส่งกล้องเคลมได้
5. สำหรับการเลือกเครื่องบันทึก DVR หรือ NVR
เราก็เลือกเอาตามจำนวนของกล้องวงจรปิด ส่วนมากเครื่องจะผลิตออกมาเป็น 4CH,8CH,16CH,24CH,32CH เป็นต้น การที่จะเลือกเครื่องบันทึกเราก็ต้องมาดูว่าใช้กล้องเทคโนโลยีของอะไร TVI,AHD,CVI หรือกล้อง Analog ธรรมดา เนื่องจากเทคโนโลยีต่างก็จะต่อกล้องกับเครื่องบันทึกไม่ติด ภาพไม่ขึ้น เช่น ซื้อกล้อง AVTECH HD-TVI ก็ควรจะเป็นเครื่องบันทึก DVR HD-TVI เพื่อให้รองรับกับกล้องได้ ข้อดีของ DVR รุ่นใหม่ๆ สามารถต่อพ่วงกับกล้องวงจรปิดรุ่นเก่าๆ ที่เป็นกล้องอนาล็อคธรรมดามาใช้ด้วยกันได้ แต่ DVR รุ่นเก่าไม่สามารถรองรับกับกล้อง HD-TVI รุ่นใหม่ได้ และสุดท้ายก็คือเรื่องของ Harddisk ความจุในการบันทึกกล้องก็ขึ้นอยู่กับความละเอียดของกล้องด้วยว่า ถ้ากล้องที่มีความละเอียดสูง และต้องการให้บันทึกได้นานขึ้นก็ต้องเพิ่มฮาร์ดดิสให้มีความจุมากขึ้น ตัวอย่างเช่น กล้อง 1.3Megapixel จำนวน 4 กล้อง บันทึกตลอดเวลา ต้องการให้อยู่ได้นานสัก 14 วันก็อาจจะใส่ฮาร์ดดิส 2-3TB เป็นต้น
6. ฮาร์ดดิส (Harddisk)
ส่วนใหญ่ที่ใช้กับกล้องวงจรปิดส่วนมากจะเป็น WD Purple เนื่องจากรองรับการทำงานตลอด 24 ชั่วโมง บันทึกตลอดทั้งวันจึงมีความทนทานต่อความร้อนได้ดี
การเลือกกล้องวงจรปิดมาใช้งานให้ถูกกับพื้นที่ก็จะช่วยลดปัญหาและยืดอายุการใช้งานของกล้องวงจรปิด และใช้กล้องได้คุ้มกับเงินที่เราเสียไป การเลือกระยะอินฟาเรดได้พอดีพอเหมาะกับพื้นที่เรื่องอินฟาเรดส่องไม่ถึงก็หมดไปหากเลือกกล้องที่ระยะอินฟาเรดไกลเกินความจำเป็นก็อาจจะทำให้เสียเงินเพิ่มโดยที่ไม่ได้ประโยชน์จากกล้องตัวนั้น เช่น กล้องที่ส่องแถวระเบียงห้องหรือตามแนวบันไดก็ใช้สัก 10-15 เมตรก็สามารถครอบคลุมพื้นที่ได้หมด และหวังว่าคงจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับการเลือกซื้อกล้องหากเกิดเหตุกล้องมีตัวใดตัวหนึ่งเกิดเสียขึ้นมาก็จะได้เลือกซื้อมาเปลี่ยนกล้องตัวนั้นได้